의 사 : 어디가 아프십니까?
Where do you hurt?
ไม่สบายตรงไหนค่ะ
투 안 : 어제 계단에서 넘어져서 발목을 다쳤어요.
I fell down the stairs and my ankle hurts.
เมื่อวานผมตกบันไดก็เลยบาดเจ็บที่ข้อเท้าครับ
의 사 : 어디 봅시다. 여기를 누르면 어떻습니까?
Let’s see. Do you feel pain if I press here?
ไหนดูซิ ถ้ากดตรงนี้เป็นอย่างไรบ้างค่ะ
투 안 : 아, 너무 아파요.
Oh, it hurts so much.
โอ๊ย เจ็บมากครับ
의 사 : 발목을 삐었네요.
You sprained your ankle.
ข้อเท้าพลิกค่ะ
먹는 약과 파스를 처방해드리겠습니다.
I will prescribe you medication and pain relief patches.
ฉันจะให้ยากินและแผ่นแปะแก้ปวดนะคะ
그런데 발목을 삐었을 때는많이 걷지 말고 앉아서 쉬어야 합니다.
For the ankle sprain, you should rest your ankle by not walking on it.
แต่ว่าถ้าข้อเท้าพลิกอย่าเดินเยอะ นั่งแล้วพักผ่อนค่ะ
그리고 찜질을 해 주는 것이 좋습니다.
I also recommend massaging it as well.
แล้วก็การประคบก็จะดีค่ะ
투 안 : 네, 알겠습니다.
Okay, I understand.
ครับ เข้าใจแล้วครับ
어디 봅시다 ไหนดูซิ เป็นประโยคที่ใช้พูดเมื่อต้องการจะขอดูหรือตรวจเช็คสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
어디 봅시다. 열이 많이나네요.
ไหนดูซิ มีไข้ด้วยนะครับ
어디 봅시다. 그림을 참잘 그렸네요.
ไหนดูซิ วาดรูปได้เก่งดีนะครับ
그런데 แต่, แต่ว่า ใช้เมื่อต้องการเปลี่ยนเรื่องที่จะสนทนาหรือต้องการพูดเรื่องที่ความหมายขัดแย้งกับประโยคแรก
리한 씨, 어제 도와줘서고마워요. 그런데 리한 씨동생은 요즘 뭐 해요?
คุณริฮานขอบคุณที่ช่วยเมื่อวานนะครับ ว่าแต่ตอนนี้น้องของคุณริฮานทำอะไรครับ
나는 늦게 잠을 자요.
ผมนอนดึกครับ
그런데 내 방 친구는일찍 자요.
แต่เพื่อนร่วมห้องของผมนอนเร็ว
อ่านตาม
1. 투안 씨는 왜 발목을 다쳤어요?
ทำไมคุณตวนจึงได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้า
2. 발목이 다쳤을 때에는 어떻게 해야 해요?
เมื่อบาดเจ็บที่ข้อเท้าต้องทำอย่างไร
정답
1. 계단에서 넘어져서 발목을 다쳤어요.
2. 많이 걷지 말고 앉아서 쉬어야 해요.