วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ซีรี่ส์ไต้หวัน เกมชีวิต ลิขิตหัวใจ



เนื้อเรื่องย่อ (SYNOPSIS) :
ภาย ใต้ชุดขาวอันแสนสะอาดสะอ้าน ได้ห่อหุ้มจิตใจที่แตกต่างกันของแพทย์เอาไว้ ดูเหมือนว่าอาคารใหญ่สีขาวที่สะอาดและสงบเงียบนั้น แต่ภายใน กลับมีการแก่งแย่งชิงดีกันอย่างเงียบๆ แพทย์หัวหน้าแผนกอายุรกรรม และศัลยกรรมต่างพากันช่วงชิงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลมาครอบครอง โดยแบ่งกันออกเป็นสองฝักสองฝ่าย เหตุการณ์ต่างๆได้เริ่มต้นขึ้นภายในโรงพยาบาลแห่งนี้.....
รุ่ง เช้า ที่หน้าประตูใหญ่ของโรงพยาบาล คนไข้ ญาติคนไข้ แพทย์และพยาบาลต่างพากันเดินขวักไขว่อยู่ที่ห้องโถงใหญ่ของโรงพยาบาล ทำให้บรรยากาศภายในโรงพยาบาลซึ่งเงียบสงบกลับดูคึกคักขึ้นมา ทันใดนั้นเอง ก็มีรถหรูสีดำหลายคันซึ่งนำขบวนด้วยรถตำรวจมาจอดที่หน้าประตู คนจำนวนหนึ่งในชุดสากลสีดำก็เดินเรียงรายเข้า มายังห้องโถงของโรงพยาบาล แต่ละคนล้วนแล้วแต่กำยำล่ำสัน ดูเหมือนว่าผู้ที่มายังโรงพยาบาลแห่งนี้จะต้องเป็นคนใหญ่คนโตอย่างแน่นอน ผู้คนต่างพากันซุบซิบกัน ที่แท้หลิวซินผิงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประธานาธิบดีซึ่งป่วยเป็นโรครูคี เมียนั้นได้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้นสิบห้าของ โรงพยาบาลแห่งนี้นั่นเอง

ซู อี้หัว ศัลยแพทย์หนุ่มหน้าตาคมคายซึ่งรักษาคนไข้ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ในแต่ละปีจะมีงานวิจัยทางการแพทย์ซึ่งเป็นที่ยอมรับและจับตามองของวงการ แพทย์ทั่วโลก หน้าตาคมคายและจิตใจที่เปี่ยมด้วยความเมตตา ทำให้เขาเป็นที่รักใคร่ของทุกคน วันหนึ่ง ซูอี้หัวได้รับคำเชิญจากสีต้าหมิงหัวหน้าแพทย์ศัลยกรรมให้ร่วมวินิจฉัยอาการ ป่วยของคนไข้รายหนึ่ง คนไข้ที่ว่านี้ไม่ใช่ใคร เธอคือหลิวซินหัวลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประธานธิบดีนั่นเอง ที่แท้หลิวซินผิงต้องเข้ารับการผ่าตัดฝังเครื่องฟอกเลือดซึ่งเป็นวิทยาการ ใหม่ล่าสุดของวงการแพทย์ เพื่อจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายเลือดอีกต่อไป ซูอี้หัวเป็นศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญทางด้านนี้ ดังนั้นจึงได้รับมอบหมายจากสีต้าหมิงให้ผ่าตัดฝังเครื่องฟอกเลือดให้หลิวซิ นผิง นึกไม่ถึงว่าภารกิจครั้งนี้ได้สร้างความอิจฉาให้ถังกั๋วไท่แพทย์หัวหน้าแผนก อายุรกรรมเป็นอันมาก ทำให้การผ่าตัดในครั้งนี้กลายเป็นการแก่งแย่งชิงดีกัน

ราว กับว่าซูอี้หัวและหลิวซินผิงต่างมีวาสนาต่อกัน ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของหลิวซินผิง ทำให้ซูอี้หัวเกิดความประทับใจในตัวเธอขึ้นมา แต่เมื่อเห็นหลิวซินผิงถูกโรคร้ายรุมเร้า ทำให้ซูอี้หัวเกิดความสงสารและเห็นอกเห็นใจเธอ ซูอี้หัวปฏิญาณว่าจะทุ่มเทความสามารถกับการผ่าตัดครั้งนี้ จะไม่ทำให้แผลจากการผ่าตัดเป็นอุปสรรคต่อการใส่ชุดราตรีเป็นอันขาด คำพูดที่ซูอี้หัวพูดกับหลิวซินผิง ถือเป็นคำมั่นสัญญาอันยิ่งใหญ่ที่ให้ไว้กับเธอ
ขณะ ที่เตรียมการผ่าตัด อยู่นั่นเอง ด้วยความกังวลที่สีต้าหมิงจะได้หน้า ถังกั๋วไท่ซึ่งไม่ยอมแพ้ให้สีต้าหมิงนั้นได้ใช้อำนาจหน้าที่ที่มีเปลี่ยนตัว คณะแพทย์ที่เข้าร่วมการผ่าตัดในครั้งนี้ โดยให้ชิวชิ่งเฉิงซึ่งเป็นแพทย์รองหัวหน้าแผนกอายุรกรรมรับผิดชอบการผ่าตัด แทนซูอี้หัว ขณะที่ซูอี้หัวกำลังตรวจสอบรายชื่อคณะแพทย์ที่เข้าร่วมการผ่าตัดนั่นเอง พบว่าไม่มีรายชื่อของเขาในการผ่าตัดครั้งนี้ อาจเป็นเพราะสีต้าหมิงเห็นแก่ความปลอดภัย ดังนั้นจึงจงใจเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับก็เป็นได้ นี่เป็นเหตุผลเดียวที่ซูอี้หัวคิดได้เวลานี้ ซูอี้หัวตรวจสอบรายชื่อคณะแพทย์ต่อไปและพบว่าวิสัญญีแพทย์ที่เข้าร่วมการผ่า ตัดในครั้งนี้คือกวานซินนั่นเอง
กวาน ซินเป็นเพื่อนที่ซูอี้หัวรู้จัก เมื่อครั้งที่เรียนหนังสือด้วยกัน กวานซินเป็นผู้หญิงที่ภายนอกดูเป็นคนอ่อนหวาน แต่ภายในเธอกลับเป็นคนเด็ดเดี่ยว มีอุดมการณ์ ไม่ยอมก้มหัวต่ออิทธิพลใดๆ จนทำให้เธอกลายเป็นที่จับจ้องของแพทย์สองกลุ่มที่กำลังช่วงชิงอำนาจกัน ด้วยความพิเศษของกวานซินนี้เองได้ดึงดูดความสนใจของซูอี้หัว แต่ความเป็นตัวของตัวเองของกวานซิน ทำให้ซูอี้หัวไม่สามารถเข้าถึงตัวตนที่แท้จริงของเธอได้ กวานซินเคยบอกซูอี้หัวว่าถ้าหากซูอี้หัวชอบทะเล ก็ไม่ควรเข้าใกล้เธอ คำพูดประโยคนี้ช่างบาดลึกทำลายจิตใจ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างซูอี้หัวและกวานซินจึงเป็นเพียง เพื่อนกันเท่านั้น
ในที่สุดก็ถึง วันผ่าตัดของหลิวซินผิง ในเวลานี้เองซูอี้หัวถึงรู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลง ศัลยแพทย์ที่รับผิดชอบการผ่าตัดคือชิวชิ่งเฉิง ส่วนตัวเขาเองนั้น แม้แต่จะเข้าไปในห้องของหลิวซินผิงก็เข้าไปไม่ได้ เพื่อรับรองความสามารถของลูกน้อง รวมทั้งตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่หมายปอง ก่อนที่หลิวซินผิงจะเข้ารับการผ่าตัดนั่นเอง สีต้าหมิงและถังกั๋วไท่ได้ทะเลาะมีปากเสียงกันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือกันที เดียว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ถูกผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์เก็บภาพเอาไว้
ในเวลาเดียวกัน

หวง ไข่หยวนผู้อำนวยการโรงเรียนแพทย์ซึ่งได้รับการไหว้วานจากเพื่อนสนิท ให้ผ่าตัดเนื้องอกที่มดลูกซึ่งเป็นอุปสรรค ต่อการตั้งครรภ์ของจูฮุ่ยอิง วิสัญญีแพทย์ที่ทำหน้าที่ให้ยาสลบคือกวานซิน เดิมทีการผ่าตัดมดลูกไม่ใช่เรื่องที่ยากนัก นึกไม่ถึงว่าขั้นตอนสุดท้ายกลับเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นมา จูฮุ่ยอิงช็อคหมดสติไป แม้ว่าปั๊มหัวใจก็ไม่ทำให้เธอฟื้นขึ้นมา ยากระตุ้นหัวใจก็ไม่เกิดผล แพทย์พยายามช่วยชีวิตจูฮุ่ยอิงจนสุดความสามารถแล้ว แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเธอไว้ได้
เติ้งเนี่ย นเหว่ยซึ่งคอยอยู่หน้าห้อง ผ่าตัดอย่างใจจดใจจ่อ จูฮุ่ยอิงเป็นหญิงสาวที่เขารู้จักกันที่บาร์ แม้ว่าเติ้งเนี่ยนเหว่ยไม่ใช่นักธุรกิจระดับแนวหน้า แต่เขาก็เป็นคนที่จูฮุ่ยอิงจะฝากชีวิตไว้ชั่วชีวิต การผ่าตัดครั้งนี้ เติ้งเนี่ยนเหว่ยมีความหวังที่จะมีลูกสองคนกับจูฮุ่ยอิง เติ้งเนี่ยนเหว่ยพูดกับจูฮุ่ยอิงว่าหลังจากผ่าตัดเสร็จ คอยให้สุขภาพของจูฮุ่ยอิงแข็งแรงแล้ว พวกเราจะไปจดทะเบียนสมรสกัน คำพูดเหล่านี้วนเวียนอยู่ที่หูเติ้งเนี่ยนเหว่ยอยู่ตลอดเวลา แต่แล้วก็กลายเป็นคำมั่นสัญญาที่ไม่สามารถกลายเป็นความจริงขึ้นมาได้ จูฮุ่ยอิงเสียชีวิตเสียแล้ว
ระเบียง ทางเดินที่หนาวเหน็บ รถเข็นและเตียงคนไข้ถูกเข็นไปคันแล้วคันเล่า เสียงคนที่พูดคุยกันทำให้จิตใจหดหู่ อีกฝั่งหนึ่งของระเบียงทางเดิน แม่ซึ่งสูงวัยและจูลี่เพื่อนสนิทของจูฮุ่ยอิงต่างรีบรุดมาที่โรงพยาบาลเพื่อ เห็นหน้าจูฮุ่ยอิงเป็นครั้งสุดท้าย ไม่มีใครคิดว่าวันนี้จะเป็นวันจากกันชั่วนิจนิรันดร์ แม่ร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกเสียใจมองเตียงที่จูฮุ่ยอิงนอนอยู่เข็นเข้าไปใน ห้องดับจิต คนกลุ่มหนึ่งพากันเดินผ่านเติ้งเนี่ยนเหว่ยและพวกไป ประธานาธิบดีและคนติดตามต่างพากันดีใจที่การผ่าตัดของหลิวซินผิงลุล่วงไปได้ ด้วยดี ไม่น่าเชื่อว่าเส้นแบ่งความเป็นความตายได้ตัดสินชี้ชะตาชีวิตคนเสียแล้ว
หลังจากที่การผ่าตัดผ่านพ้นไปแล้ว

สี ต้าหมิงแพทย์หัวหน้าแผนกศัลยกรรมและถังกั๋วไท่แพทย์หัวหน้าแผนกอายุร กรรมต่างพากันช่วงชิงตำแหน่งผู้อำนวยการ โรงพยาบาลรุนแรงขึ้น ถังกั๋วไท่พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลมาครอบครอง โดยติดต่อผู้ที่เห็นว่าจะผลักดันให้ตนเป็นใหญ่ ในเวลาเดียวกัน เนื่องจากการผ่าตัดให้ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของท่านประธานาธิบดี ทำให้ซูอี้หัวกลายเป็นเสี้ยนหนามของถังกั๋วไท่โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว จากความกดดันของถังกั๋วไท่ ทำให้แพทย์แบ่งออกเป็นฝักเป็นฝ่าย เพื่อเอาตัวรอดกัน ไม่มีแพทย์คนใดกล้าแสดงจุดยืนที่ชัดเจนออกมา ซูอี้หัวตระหนักดีว่าการที่ทุกคนทำเช่นนี้นั้นก็เพื่อปากท้องทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ซูอี้หัวได้แต่ยอมรับสภาพที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือเหวินลี่ซึ่งเป็นพยาบาลแผนกอายุรกรรม รวมทั้งเหวยหลิงผู้ช่วยของซูอี้หัวนั้นกลับไม่หวาดกลัวอิทธิพลใดๆ นอกจากนี้ยังมีฮ่าวเสี้ยวกังแพทย์หัวหน้าตึกซึ่งคอยให้ความช่วยเหลือและสนับ สนุนซูอี้หัวมาตลอดรวมอยู่ด้วย ทำให้ซูอี้หัวรู้สึกตื้นตันใจเป็นอันมาก แม้ว่าซูอี้หัวจะทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับงานสักเพียงใดก็ตาม แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหลิวซินผิงซึ่งเขาไม่ได้ลงมือผ่าตัดด้วยตัวเขาเอง ทำให้ซูอี้หัวละอายใจต่อหลิวซินผิงยิ่งนัก แต่แสดงความเป็นห่วงมากเกินไปก็ใช่ที่ อย่างไรก็ตามหลิวซินผิงก็ไม่ใช่คนไข้ของเขา ถ้าหากแสดงออกมากเกินไป ยิ่งส่งผลร้ายกับเขา
หวงไข่หยวน ต้องรับผิดชอบชีวิตคน กวานซินเลือดต้องชำระด้วยเลือด คำพูดเหล่านี้ถูกเขียนด้วยหมึกสีแดงบนผ้าขาว การตายของจูฮุ่ยอิงเป็นที่วิพากวิจารณ์ถึงความผิดพลาดของแพทย์ แม่ของจูฮุ่ยอิงและเนี่ยนเหว่ยไม่พอใจการทำงานของโรงพยาบาล ดังนั้นจึงต้องการให้โรงพยาบาลออกมาชี้แจงถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือหลังจากที่ตรวจสอบการผ่าตัดอย่างละเอียดแล้วกลับไม่ มีความผิดพลาดใดๆเลย หวงไข่หยวนต้องการทำความเข้าใจกับญาติคนไข้ แต่ก่อนอื่นหวงไข่หยวนได้แสดงน้ำใจมอบเงินจำนวนหนึ่งเพื่อปลอบขวัญ การทำเช่นนี้เป็นการดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย

กวาน ซินต้องการให้ญาติคนไข้อนุญาตให้ทำการชันสูตรศพเพื่อค้นหาความจริง ถึงสาเหตุการตายของจูฮุ่ยอิง คำยืนกรานของกวานซินสร้างความหวาดหวั่นให้หวงไข่หยวนยิ่งนัก
ถัง กั๋วไท่ ซึ่งเจ้าเล่ห์เพทุบายไม่มีทางทิ้งโอกาสงามไปอย่างแน่นอน เขาคิดว่าในเวลานี้ถ้าหากให้ความช่วยเหลือหวงไข่หยวนซึ่งกำลังเดือดร้อน เชื่อว่าจะต้องส่งผลดีในการช่วงชิงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลอย่างแน่นอน หวงไข่หยวนก็เช่นเดียวกัน มีความหวังที่จะให้อิทธิพลของถังกั๋วไท่ยุติปัญหาที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามถือว่าได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่คิดไม่ถึงว่าการตายของจูฮุ่ยอิงนั้นไม่ได้จบลงง่ายๆ ครอบครัวของจูฮุ่ยอิงไม่ยอมลามือ โดยเขียนป้ายประจานการทำงานที่บกพร่องของแพทย์ กวานซินต้องฝ่าฝูงชนที่มาเรียกร้องความเป็นธรรมที่โรงพยาบาลอย่างทุลักทุเล ซูอี้หัวปลอบใจกวานซิน หลายปีมานี้ ซูอี้หัวไม่เข้าใจว่าเหตุใดกวานซินจึงพยายามหลบหน้าเขา ที่สำคัญเขาไม่ได้เป็นผู้ชายที่เป็นเสื้อผู้หญิง เมื่อเห็นกวานซินตกที่นั่งลำบาก เขาจะดูดายไม่ให้ความช่วยเหลือได้อย่างนั้นหรือ จากการดึงดันของซูอี้หัว ทำให้ซูอี้หัวได้ไปส่งกวานซิน กลับบ้าน สิ่งที่ทำให้ซูอี้หัวและกวานซินต้องตะลึงก็คือบ้านของกวานซินถูกทำลาย ข้างกำแพงมีตัวหนังสือคำว่าฆาตกรติดอยู่ กวานซินได้รับความสะเทือนใจเป็นอันมาก ถึงแม้ว่าเธอจะเข้มแข็ง ทำใจยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ตาม แต่แล้วความอัดอั้นตันใจของกวานซินก็เหมือนกับเขื่อนที่แตก กวานซินโผเข้าสู่อ้อมอกซูอี้หัว ซูอี้หัวปลอบใจกวานซินให้คลายความเศร้า…
เนื่อง จากการผ่าตัดของหลิวซินผิงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประธานาธิบดี ทำให้ถังกั๋วไท่พลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย ชิวชิ่งเฉิงแพทย์ซึ่งรับผิดชอบการผ่าตัดยิ่งได้หน้า ชิวชิ่งเฉิงก็เหมือนกับบุคคลทั่วไปที่ประสบความสำเร็จ มีครอบครัวที่เปี่ยมด้วยความสุข เหม่ยเชี่ยนภรรยาซึ่งเป็นกุลสตรี เสียวหมิ่นลูกสาวที่น่ารัก แต่ชิวชิ่งเฉิงก็เหมือนผู้ชายทั่วไปที่ไม่พอใจกับสภาพที่เป็นอยู่สักเท่าใด นัก เขามักจะตำหนิภรรยาที่ไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไร ไม่เข้าใจถึงความปรารถนาและความใฝ่ฝันของเขา การแต่งงานเป็นเพียงความถูกต้องทางสังคมเท่านั้น สำหรับชิวชิ่งเฉิงแล้ว เหม่ยเชี่ยนภรรยาของเขาซึ่งเป็นกุลสตรีทุกกระเบียดนั้นกลับเทียบหม่าอี้เฟิน นักข่าวไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เขารู้สึกว่าหม่าอี้เฟินเข้าใจโลก ข่าวที่หม่าอี้เฟินเขียนถึงชิวชิ่งเฉิงนั้นส่งผลต่อหน้าที่การงานของชิวชิ่ง เฉิง ราวกับเสือติดปีกเลยก็ว่าได้ หม่าอี้เฟินหญิงสาวที่หน้าตางดงามและยังเข้าใจโลก เธอกลับไม่คำนึงว่าชิวชิ่งเฉิงมีครอบครัวแล้ว เธอยินดีที่จะคบหากับชิวชิ่งเฉิง

หลัง จากที่หลิวซินผิงเข้ารับการผ่าตัดแล้ว ดูเหมือนว่าสภาพร่างกายของเธอไม่ดีอย่างที่คาดคิดเอาไว้ การผ่าตัดของชิวชิ่งเฉิงทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนขึ้นมา สภาพร่างกายของหลิวซินผิงย่ำแย่ลงทุกที เธอไม่มีทางเลือกจึงขอความช่วยเหลือจากซูอี้หัว ซูอี้หัวเห็นว่าถ้าไม่ผ่าตัดนำเครื่องฟอกเลือดออกจะทำให้หลิวซินผิงจะมี อันตรายถึงแก่ชีวิต ซูอี้หัวซักถามชิวชิ่งเฉิงถึงขั้นตอนการผ่าตัด ถ้าหากว่าจะต้องผ่าตัดนำเครื่องฟอกเลือดออกมา นั่นก็เท่ากับยอมรับว่าการผ่าตัดล้มเหลว ไม่ว่าจะอธิบายอย่างไร ถังกั๋วไท่ไม่มีทางยอมให้ผ่าตัดใหม่อย่างแน่นอน ซูอี้หัวตัดสินใจนำปัญหาที่เกิดขึ้นไปปรึกษาสีต้าหมิง โดยหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสีต้าหมิง นึกไม่ถึงว่า สีต้าหมิงกลับไม่อยากหาเหาใส่หัว โดยบอกให้ซูอี้หัวดูสถานการณ์ไปก่อน
หม่า อี้เฟินเป็นผู้หญิงที่เหยียบเรือสองแคม นอกจากชิวชิ่งเฉิงแล้ว เธอยังมีความสัมพันธ์ลับๆกับฉางอี้หยูผู้จัดการฝ่ายขาวของสถานีโทรทัศน์อีก ด้วย สีต้าหมิงซึ่งสนิทสนมกับฉางอี้หยูนั้น ได้ใช้ความสัมพันธ์นี้ควบคุมสถานการณ์ไว้ สีต้าหมิงเห็นโอกาสงามที่จะเอาผิดถังกั๋วไท่ ถังกั๋วไท่คิดใคร่ครวญอย่างละเอียดว่าถ้าหากท่านประธานาธิบดีรู้ความจริง ทั้งหมดแล้ว จะต้องกระทบกระเทือนต่อตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่เขาใฝ่ฝันอย่างแน่นอน ไม่นานนักก็มีประกาศแต่งตั้งผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนใหม่

สี ต้าหมิงได้รับการแต่งตั้งให้รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล ถังกั๋วไท่ไม่คิดเลยว่าตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่เขาหมายปองได้หลุดลอย ไปเสียแล้ว ถังกั๋วไท่ขึ้นไปตากลมบนดาดฟ้าของโรงพยาบาล และแล้วก็ต้องจบชีวิตลงด้วยความช้ำใจ
ตลอด ชีวิตการเป็นแพทย์ของถังกั๋ว ไท่นั้นถือว่ามีผลงานไม่น้อย เพื่อให้ลูกเมียมีสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ถังกั๋วไท่ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อให้เขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ความจริงแล้ว ถังกั๋วไท่ก็เหมือนกับุคคลทั่วไปที่ประสบความสำเร็จ ด้วยอำนาจและเงินทอง ทำให้คนเห็นแก่ได้ ตกเป็นทาสของสังคม แต่เมื่อวันหนึ่งชีวิตได้ดิ่งลงมาต่ำสุดแล้วก็จะพบว่าทุกอย่างเป็นเพียงเมฆ หมอกที่สูญสลายไป ไม่มีสิ่งใดสำคัญยิ่งกว่าชีวิต
หลัง จากที่สีต้าหมิ งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลอย่างเป็นทางการแล้ว การช่วงชิงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลไม่ได้จบลง การช่วงชิงยังคงมีอยู่ต่อไป
สี ชุ่ยฟ่งลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียว ของสีต้าหมิงนั้น สีต้าหมิงชื่นชมความสามารถของซูอี้หัว เขามีความหวังจะได้ลูกเขยเช่นซูอี้หัวแพทย์หนุ่มซึ่งมีอนาคต ในงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล สีต้าหมิงต้องการให้ครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตากันโดยมีซูอี้หัวเป็นส่วนหนึ่ง ของครอบครัวด้วย ในเวลานี้สีต้าหมิงมีอำนาจล้นฟ้า ถ้าหากจะเห็นแก่ตัวให้การสนับสนุนซูอี้หัวก็ไม่ใช่เรื่องแปลก สีต้าหมิง มอบหมายให้ชิวชิ่งเฉิงรับผิดชอบการผ่าตัดนำเครื่องฟอกเลือดออกมา สีต้าหมิงรู้ดีว่าการผ่าตัดในครั้งนี้มีปัญหามากมาย ดังนั้นจึงไม่ได้มอบหมายให้ซูอี้หัวรับผิดชอบ สีต้าหมิงเตือนสติซูอี้หัวว่าจงหนีให้ไกลจากพายุ ซูอี้หัวและชิวชิ่งเฉิงซึ่งมีอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน แต่ในเวลานี้ทั้งสองต้องร่วมมือกันเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่าง รวดเร็ว ซูอี้หัวตั้งตัวไม่ติดกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือเมฆดำ อำนาจกำลังเรียกหา เงินทองกำลังโบกมือให้เขา ...
หลัง จากที่ถังกั๋วไท่ถูกโค่นล้มลงแล้ว ชิวชิ่งเฉิงก็ดำรงตำแหน่งแพทย์หัวหน้าแผนกอายุรกรรม ความใฝ่ฝันของชิวชิ่งเฉิงไม่ได้อยู่เท่านี้ ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลเป็นความใฝ่ฝันสูงสุดของเขา เส้นทางที่จะไปให้ถึงนั้นเต็มไปด้วยขวากหนาม ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหม่าอี้เฟิน เชื่อว่าเขาไม่สามารถดำรงตำแหน่งแพทย์หัวหน้าแผนกอายุรกรรมง่ายดายเช่นนี้ ชิวชิ่งเฉิงและหม่าอี้เฟินเคยให้คำมั่นสัญญาต่อกันว่าเมื่อใดที่ชิวชิ่งเฉิง ดำรงตำแหน่งแพทย์หัวหน้าแผนกอายุรกรรม และหม่าอี้เฟินผู้ประกาศข่าว วันนั้นพวกเราจะฉลองด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ในช่วงที่รอให้ความฝันกลายเป็นความจริงขึ้นมานั้น

หม่า อี้เฟินกลับรุกหนักขึ้นโดยเป็นมือที่สามทำลายความสัมพันธ์ของชิวชิ่ง เฉิงกับเหม่ยเชี่ยน เธอบอกชิวชิ่งเฉิงว่าเธอตั้งครรภ์แล้ว เธอยืนกรานว่าจะเก็บลูกเอาไว้ เธอรู้ดีว่าชิวชิ่งเฉิงไม่สามารถประกันความสุขให้เธอได้ ความรักจะดูด้อยค่า ทันทีเมื่อเทียบกับอำนาจและเงินทอง ถ้าจะให้ชิวชิ่งเฉิงละทิ้งเกียรติยศชื่อเสียง เชื่อว่าไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน เมื่อหม่าอี้เฟินพบว่าอีกด้านหนึ่งของความรักเต็มไปด้วยความโหดร้าย เธอก็ตัดสินใจล้างแค้นชิวชิ่งเฉิง ไม่ให้ชิวชิ่งเฉิงสมปรารถนา
หลัง จาก ที่ความจริงถูกเปิดเผยออกมา ชิวชิ่งเฉิงไม่มีทางเลือกจึงต้องยกตำแหน่งแพทย์หัวหน้าแผนกอายุรกรรมให้แก่ ซูอี้หัว เมื่อถึงคราวตกอับ ชิวชิ่งเฉิงถึงพบว่ามีเพียงเหม่ยเชี่ยนและเสียวหมิ่นภรรยาและลูกสาวเท่านั้น ที่อยู่ข้างกายเขา แต่สวรรค์ก็ยังไม่หยุดกลั่นแกล้งเขา ชิวชิ่งเฉิงพบว่ามือทั้งสองข้างของเขากุมความเป็นความตายของคนไข้ มีคนไข้รายหนึ่งประสบอุบัติเหตุต้องได้รับการผ่าตัดโดยด่วน นึกไม่ถึงว่าเขาต้องผ่าตัดให้เสียวหมิ่นลูกสาวของเขาด้วยมือของเขาเอง สิ่งที่ทำให้เขาเจ็บปวดคือไม่สามารถรักษาชีวิตลูกสาวไว้ได้ ในเวลานี้เองจึงทำให้ชิวชิ่งเฉิงตระหนักถึงคุณค่าของชีวิต ความผิดพลาดในครั้งก่อน บัดนี้ยมทูตทวงหนี้เขาแล้ว ครั้งนี้ชิวชิ่งเฉิงไม่เพียงพ่ายแพ้ให้ตัวเอง เขายังพ่ายแพ้ให้แก่ชะตากรรมอีกด้วย
หก เดือนต่อมา ห้องแถลงข่าวของโรงพยาบาลได้จัดงานเลี้ยงขอบคุณผู้สื่อข่าว คนไข้ตัวน้อยซึ่งได้รับการเปลี่ยนหัวใจและไตต่างพากันมาร่วมงาน ทุกคนต่างมีสุขภาพที่แข็งแรง ทุกคนต่างพากันขอบคุณชิวหมิ่นที่ได้บริจาคอวัยวะทำประโยชน์ให้เพื่อนมนุษย์ เด็กที่ได้รับการบริจาคหัวใจจากเสียวหมิ่นได้ขอบคุณในความอนุเคราะห์ของชิ วชิ่งเฉิงและเหม่ยเชี่ยน ชิวชิ่งเฉิงดึงเด็กซึ่งได้รับบริจาคหัวใจจากเสียวหมิ่นเข้ามากอด เสียวหมิ่นยังมีชีวิตอยู่ เธอไม่ได้จากพวกเราไป เสียงเต้นของหัวใจเป็นเครื่องยืนยันว่าความรักไม่ได้สูญสลายไป ความรักยังคงอยู่ในจิตใจชั่วนิจนิรันดร์
เรื่องราวใดๆใช่ว่าเรียบง่ายอย่างที่เห็น
มนุษย์เรา ใช่ว่าจะมีอิสระเลือกในสิ่งที่รัก...

คุณพูดถูกแล้ว คนเราไม่เหมือนกัน
เราควรทำในสิ่งที่ควรทำ ใช่ว่าคุณไม่มีทางเลือกของคุณ....
นี่ เป็นคำพูดของซูอี้หัวและกวานซินพูดคุยกัน ใช่ว่าซูอี้หัวไม่รักกวนซิน แต่ด้านหลังตัวอักษร ทั้งสองตระหนักถึงความสูญเสียที่เกิดจากการแก่งแย่งชิงดีกัน ด้วยสภาพที่กล้ำกลืน ทั้งสองได้แต่เงียบและทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่ทำได้คือการลืมให้หมดทุกสิ่ง ซูอี้หัวเลือกสีชุ่ยฟ่ง ส่วนกวานซินเลือกเป็นฝ่ายไป โดยที่ทั้งสองต่างมีความจำเป็นที่ไม่เหมือนกัน
แสงอาทิตย์ส่องตา ซูอี้หัวมองเห็นรอยยิ้มของหลิวซินผิง มองเห็นน้ำใสใจจริงที่เขาทอดทิ้งไป