1. ภาษาไทยเป็นภาษาที่ไม่มีวิภัติปัจจัย คำแต่ละคำก็จะทำ หน้าที่เมื่อนำ ไปวางตามโครงสร้างของประโยคแต่ในภาษาเกาหลีมีหน่วยคำ เล็ก ๆ เพื่อใช้เป็นคำ บ่งชี้ระบุหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไปของคำ ศัพท์เหล่านั้น
ภาษาไทย เขา เป็น คน ดี เขาเป็นคนดี
ภาษาเกาหลี 그 사람 이다 사람 좋다(ส่วนขยาย) 그 사람은 좋은 사람이다.
ภาษาไทย อากาศ ดี อากาศดี
ภาษาเกาหลี 날씨 좋다 (ภาคแสดง) 날씨가 좋다.
2. ภาษาไทยมีกาลวิเศษณ์ (คำวิเศษณ์บอกเวลาหรือคำว่า “แล้ว”) เพื่อบอกถึงรูปอดีตแต่ในภาษาเกาหลีจะมีหน่วยคำ เล็ก ๆ วางไว้หลังคำกริยาเพื่อบอกกาล
ภาษาไทย ตอนนี้ฉัน กิน ข้าว 지금 나는 밥을 먹는다.
ฉัน กิน ข้าว แล้ว 나는 밥을 먹었다.
ภาษาเกาหลี 나는 밥을 먹는다. (ปัจจุบัน)
나는 밥을 먹었다. (อดีต)
3. ภาษาเกาหลีมีคำสุภาพเหมือนกับภาษาไทย ตัวอย่างต่อไปนี้ชี้ให้เห็นว่าคำว่าบ้านในภาษาเกาหลี คือ 집(บ้าน) และคำสุภาพคือ 댁 (บ้าน) และคำว่าอยู่ 있다 (อยู่) คำสุภาพคือ 계시다 (อยู่)
ภาษาไทย ฉัน บ้าน อยู่
ภาษาเกาหลี 저는 집에 있습니다.
ภาษาไทย ครู บ้าน อยู่
ภาษาเกาหลี 선생님께서 댁에 계십니다.
4. การบอกที่อยู่ในภาษาไทยจะเริ่มจากส่วนที่เล็กที่สุดไปส่วนที่ใหญ่ที่สุดแต่ในทางกลับกันภาษาเกาหลีจะบอกจากส่วนที่ใหญ่ที่สุดไปส่วนที่เล็กที่สุด
ภาษาไทย 1095 โฮซันโร นัมกู กรุงโซล เกาหลีใต้
เลขที่ ชื่อถนน เขต เมือง ประเทศ
ภาษาเกาหลี 대한민국 서울시 남구 호산로 1095
ประเทศ เมือง เขต ชื่อถนน เลขที่
ในภาษาไทยจะเขียนเรียงลำ ดับ “วัน/เดือน/ปี” แต่ในทางตรงกันข้ามภาษาเกาหลีจะเขียนเรียงลำ ดับ “ปี/เดือน/วัน” ตามลำ ดับ
ภาษาไทย 5 พฤศจิกายน 2016
วันที่ เดือน ปี
ภาษาเกาหลี 2016년 11월 5일
2016 พฤศจิกายน 5
อื่น ๆ
1. ตำแหน่งของสระในภาษาไทยมีหลายตำแหน่ง กล่าวคือ สระในภาษาไทยอยู่บนพยัญชนะ อยู่ใต้พยัญชนะ, อยู่ด้านซ้ายพยัญชนะ, อยู่ด้านขวาพยัญชนะ แต่สระในภาษาเกาหลีจะอยู่ด้านขวาหรือใต้พยัญชนะเท่านั้น
ภาษาไทย กี, กู, เก, กา
ภาษาเกาหลี 마, 모
2. การเขียนประโยคภาษาไทยไม่มีการเว้นวรรคภายในประโยคและไม่มีการใช้เครื่องหมาย แต่ภาษาเกาหลีการเว้นวรรคภายในประโยคและมีการใช้เครื่องหมาย เช่น เครื่องหมายปรัศนี (?), เครื่องหมายมหัพภาค (.), เครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) เป็นต้น