วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

第十五课:天气预报说,明天有雨。 บทที่ 15: พยากรณ์อากาศบอกว่า พรุ่งนี้จะมีฝน

第十五课:天气预报说,明天有雨。
บทที่ 15: พยากรณ์อากาศบอกว่า พรุ่งนี้จะมีฝน

บทสนทนาที่ 1

  • tiān qì yù bào shuō míng tiān  yǒu yǔ
    天  气 预  报  说, 明  天  有  雨。
    พยากรณ์อากาศบอกว่า พรุ่งนี้จะมีฝน
  • zhēn dǎo  méi
    真   倒  霉!
    โชคไม่ดีเลยจริงๆ

บทสนทนาที่ 2

  • jīn tiān  tiān qì zěn me yàng
    今 天  天  气 怎  么  样?
    วันนี้อากาศเป็นยังไงบ้าง
  • zuó tiān tiān qì yù bào shuō  jīn tiān shì qíng tiān
    昨  天  天  气 预 报  说, 今  天  是  晴  天。
    เมื่อวานพยากรณ์อากาศบอกว่า วันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่ง
  • tài hǎo le  zhōng yú  kě yǐ chū qu wánr le
    太  好  了! 终  于 可 以  出  去 玩儿 了。
    ดีจริงๆ ในที่สุดก็ออกไปเที่ยวได้แล้ว
  • wǒ tǎo  yàn tiān qì yù bào
    我  讨  厌  天  气 预  报!
    ผมล่ะเกลียดพยากรณ์อากาศจริงๆ


คำอธิบายการใช้ภาษา

1. คุยเรื่องดินฟ้าอากาศ

ในการบรรยายสภาพดินฟ้าอากาศ เราจะใช้คำว่า "有……"(yǒu, มี...) กับฝน หิมะ ลม หมอกและลูกเห็บ หากจะบอกว่าท้องฟ้าปลอดโปร่งหรือมีแดดจัด ต้องพูดว่า "是晴天"(shì qíng tiān)

2. 怎么样

"怎么样"(zěn me yàng) ในที่นี้หมายถึง "(สภาพ/เรื่องราวหนึ่ง)เป็นอย่างไร/ยังไงบ้าง"

3. 出去

"出去"(chū qu) เป็นกลุ่มคำกริยาที่ประกอบขึ้นจากคำกริยา "出" (chū, ออก) และส่วนเสริมบอกทิศทาง "去"(qù, ไป) ส่วนเสริมบอกทิศทางที่มีความหมายตรงกันข้ามกับ "去" คือ "来"(lái, มา) ตัวอย่างกลุ่มคำกริยาประเภทนี้ได้แก่ "出去"(ออกไป), "出来"(chū lái, ออกมา) ทั้งนี้ส่วนเสริมบอกทิศทางที่กล่าวถึงสามารถใช้ได้กับคำกริยาบางประเภทเท่านั้น เช่น "出"(ออก), "回"(huí, กลับ) และ "拿"(ná, หยิบ, ถือ) โดยจะวางไว้หลังคำกริยา

เกร็ดวัฒนธรรม

ภูมิประเทศของจีน

ประเทศจีนตั้งอยู่บริเวณซีกโลกเหนือในทวีปเอเชียตะวันออก ทางฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก สภาพภูมิประเทศของจีนค่อนข้างซับซ้อน พื้นที่ด้านตะวันตกยกตัวสูงและค่อนๆ ลาดต่ำลงมาทางตะวันออก ลักษณะภูมิประเทศของจีนคล้ายขั้นบันได 3 ขั้น ขั้นที่ 1 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สูงจากระดับน้ำทะเลมากที่สุดในโลกและได้รับการขนานนามว่า "หลังคาของโลก" คือบริเวณที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบตซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน พื้นที่บันไดขั้นที่ 1 นี้จะเอียงลาดลงมาทางตะวันออกและเหนือ กลายเป็นที่ราบสูงและแอ่งแผ่นดินต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียง บริเวณที่ราบสูงและแอ่งแผ่นดินเหล่านี้ก็คือพื้นที่บันไดขั้นที่ 2 นั่นเอง ส่วนพื้นที่บันไดขั้นสุดท้ายส่วนใหญ่จะเป็นที่ราบ

ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีภูเขามาก เขตภูเขาของจีนอันประกอบด้วยภูเขา ที่ราบสูงและเนินเขาคิดเป็นเนื้อที่ประมาณสองในสามของพื้นที่ทั้งหมด ในบรรดาเทือกเขาที่มียอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 8,000 เมตรจำนวน 14 แห่งของโลก ในจำนวนนี้มียอดเขาถึง 9 ยอดที่ตั้งอยู่บนเส้นพรมแดนของจีนและภายในพื้นที่ประเทศจีน เช่น ยอดเขาจูมู่หลางหม่าหรือยอดเขาเอเวอร์เรสซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก(สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 8,848.13 เมตร) และยังมียอดเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 5,000 เมตรอีกนับไม่ถ้วน เทือกเขาของจีนจึงกลายเป็นที่สุดของโลกไม่ว่าจะเป็นในด้านปริมาณหรือความสูงของยอดเขา

ประเทศจีนมีที่ราบสูงซึ่งกินเนื้อที่เป็นบริเวณกว้าง ที่ราบสูงที่มีชื่อเสียงทั้งสี่แห่งของจีนได้แก่ ที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต ที่ราบสูงมองโกลเลียใน ที่ราบสูงหวงถู่และที่ราบสูงยูนนาน-กุ้ยโจว ที่ราบสูงทั้งสี่นี้สูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 1,000 เมตร โดยแต่ละที่จะมีลักษณะทางภูมิศาสตร์ต่างกันไป

นอกจากนี้จีนยังมีแอ่งแผ่นดินจำนวนมาก ได้แก่ แอ่งเสฉวน แอ่งทาริม แอ่งจูงการ์และแอ่งไฉต๋ามู่ แอ่งแผ่นดินสามแอ่งแรกล้อมรอบด้วยเทือกเขาสูง สภาพพื้นที่โดยทั่วไปในแอ่งแผ่นดินค่อนข้างราบและมีทะเลทรายขนาดใหญ่

แม่น้ำในประเทศจีนก็มีมากเช่นกัน โดยมีแม่น้ำจำนวนกว่า 50,000 สายที่มีบริเวณลุ่มน้ำมากกว่า 100 ตารางกิโลเมตร และมีแม่น้ำกว่า 1,500 สายที่มีบริเวณลุ่มน้ำมากกว่า 1,000 ตารางกิโลเมตร แม่น้ำส่วนใหญ่อยู่ทางภาคตะวันออกและภาคใต้ของจีน ส่วนทางภาคตะวันตะเฉียงเหนือจะแห้งแล้งและมีปริมาณน้ำฝนน้อย ส่งผลให้มีแม่น้ำน้อยสาย แม่น้ำฉางเจียงหรือแม่น้ำแยงซีเป็นแม่น้ำสายใหญ่อันดับแรกของจีนและยังเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลกด้วย แม่น้ำสายสำคัญอื่นๆ ได้แก่ แม่น้ำหวงเหอหรือแม่น้ำเหลือง แม่น้ำเฮยหลงเจียง แม่น้ำจูเจียงและแม่น้ำหวายเหอ เป็นต้น นอกจากนี้ประเทศจีนยังมีทะเลสาบอยู่มากมาย ได้แก่ ทะเลสาบชิงไห่ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต ทะเลสาบแห่งนี้เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดของจีนและยังเป็นเขตอนุรักษ์ทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงของจีนอีกด้วย ส่วนทะเลสาบอื่นๆ ในประเทศจีนส่วนใหญ่เป็นทะเลสาบน้ำจืดซึ่งล้วนแต่มีทรัพยากรทางน้ำที่อุดมสมบูรณ์ เช่น ทะเลสาบผัวหยาง ทะเลสาบต้งถิง ทะเลสาบไท่หูและทะเลสาบหงเจ๋อ เป็นต้น