วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

第十八课:你对这个问题有什么看法? บทที่ 18: คุณมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง

第十八课:你对这个问题有什么看法?
บทที่ 18: คุณมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง

บทสนทนาที่ 1

  • nǐ  jué de zhè bù diàn yǐng zěn  me  yàng
    你 觉  得  这  部  电  影  怎  么  样?
    คุณว่าหนังเรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง
  • ò  wǒ jué de hěn  yǒu qù wǒ hěn xǐ huan
    哦,我  觉  得  很  有  趣, 我  很  喜  欢。
    อ้อ ผมว่าหนังเรื่องนี้สนุกมาก ผมชอบมากเลยครับ
  • dà chuān zhè shì yí bù kǒng bù diàn yǐng
    大  川,  这  是 一 部  恐  怖  电  影!
    ต้า ชวน นี่มันหนังสยองขวัญนะ

บทสนทนาที่ 2

  • zuì jìn chē  huò zhēn duō
    最  近 车  祸  真  多!
    ระยะนี้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์บ่อยจริงๆ
  • shì a  nǐ duì zhè ge wèn tí yǒu shén me  kàn fǎ
    是 啊!你 对  这  个  问  题  有  什  么  看  法?
    ใช่ค่ะ คุณมีความเห็นยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้คะ
  • wǒ rèn wéi  rén men yīng gāi zūn shǒu jiāo tōng guī zé
    我  认  为  人  们  应  该  遵  守  交  通  规 则。
    ผมคิดว่าทุกคนควรปฏิบัติตามกฎจราจรนะครับ
  • nǐ shuō  de méi cuò  wǒ yě zhè me rèn wéi
    你  说  得  没  错。 我  也  这  么  认  为。
    คุณพูดถูก ฉันก็คิดแบบนี้เหมือนกัน


คำอธิบายการใช้ภาษา

1. 对……有什么看法?

"对……有什么看法?"(duì yǒu shén me kàn fǎ) เป็นสำนวนที่ใช้ในการถามความคิดเห็นของคู่สนทนา มีความหมายว่า "มีความคิดเห็นต่อ...อย่างไร"

2. 想、觉得、认为

"想"(xiǎng)、"觉得"(jué de) และ "认为"(rèn wéi) ต่างเป็นคำกริยาที่เกี่ยวกับการแสดงความรู้สึกหรือความคิดเห็นต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง คำทั้งสามมีความหมายว่า "คิดว่า" , "รู้สึก" และ "คิด/เห็นว่า" ตามลำดับ

3. 这么ี้้

"这么"(zhè me) ในบทนี้หมายถึง "แบบ/อย่างนี้" มีความหมายต่างจาก "这么..." (...ขนาด/อย่างนี้) ในบทที่ 11

เกร็ดวัฒนธรรม

ศาสนาเต๋า

ศาสนาเต๋าหรือ "เต้าเจี้ยว" เป็นศาสนาโบราณที่ถือกำเนิดในประเทศจีนและเป็นศาสนาที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อคนจีนสมัยโบราณรองจากศาสนาพุทธ

ศาสนาเต๋าเกิดในสมัยราชวงศ์ฮั่นและรุ่งเรืองในสมัยราชวงศ์ถังและซ่ง ศาสนาเต๋ายึดคัมภีร์เต้าเต๋อจิงที่ประพันธ์โดยศาสดาเล่าจื๊อเป็นหลักในการปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยแรกเริ่ม โดนยึดเอาหลัก"เต้า" และ "เต๋อ" ในคัมภีร์เป็นหลักศรัทธาพื้นฐาน ศาสนาเต๋าเชื่อว่า สรรพสิ่งในจักรวาลล้วนมีรากฐานและวิวัฒนาการมาจาก"เต้า" "เต้า"มีอยู่ทุกที่และครอบงำทุกสรรพสิ่ง ส่วน "เต๋อ" นั้นก็คือรูปธรรมที่สะท้อนวิถีของ "เต้า" ออกมานั่นเอง ศาสนาเต๋าให้ความสำคัญกับการมีชีวิตอยู่ ดังนั้นผู้นับถือศาสนาเต๋าจึงพยายามแสวงหาหนทางเพื่อให้มีชีวิตยืนยาวและไม่แก่เฒ่า นอกจากนี้ศาสนาเต๋ายังเชื่อว่าชีวิตไม่ใช่สิ่งที่ฟ้าลิขิต หากแต่เป็นสิ่งที่ตนกำหนดเองได้ และเชื่อว่าการบำเพ็ญเพียรตามวิถีเต๋าเท่านั้นที่จะเป็นหนทางบรรลุเป็นเทพหรือเซียนซึ่งมีชีวิตอมตะ

ศาสนาเต๋ามีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมจีนโบราณด้านต่างๆ ในระดับที่แตกต่างกันไป เช่น การเมือง เศรษฐกิจ วรรณคดี ศิลปะ ดนตรี ภาพวาด สถาปัตยกรรม เภสัชศาสตร์ ศาสตร์การบำรุงสุขภาพ ชี่กง เคมี ศิลปะการป้องกันตัววูซู ดาราศาสตร์และภูมิศาสตร์ เป็นต้น นอกจากนี้ศาสนาเต๋ายังมีอิทธิพลอย่างมากต่อคนจีน ไม่ว่าจะเป็นด้านวิธีคิด จริยธรรม คุณธรรม ประเพณี ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล จิตใจและลักษณะนิสัยของชาวจีน

การเคารพผู้เฒ่าผู้แก่

จีนหนึ่งในชนชาติที่มีประวัติศาสตร์และอารยธรรมเก่าแก่ของโลกได้รับการยอมรับว่าเป็นชนชาติที่ให้ความสำคัญกับประเพณีพิธีกรรมต่างๆ อย่างมาก ดังจะเห็นได้จากคุณธรรมและประเพณีอันดีงามของจีนที่สืบทอดมาแต่ครั้งโบราณกาลจำนวนมาก ได้หล่อหลอมกลายเป็นจิตวิญญาณทางวัฒนธรรมและจริยธรรมอันงดงามของชนชาติจีน ไม่ว่าจะเป็นมารยาท ความซื่อสัตย์ ความขยัน ความประหยัด ความสามัคคี การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความรักชาติ ความอดทน การใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและความวิริยะอุตสาหะ เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความเคารพผู้เฒ่าผู้แก่ คุณธรรมสำคัญข้อนี้เปรียบเสมือนสายน้ำที่ไหลรินผ่านกระแสธารประวัติศาสตร์อันยาวนานของจีน

จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า ขงจื๊อปราชญ์โบราณชาวจีนได้เคยกล่าวไว้ว่า "jīn zhī cún zhě shì wèi néng yǎng, zhì yú quǎn mǎ, jiē yǒu suǒ yǎng, bú jìng hé yǐ bié kē?" ซึ่งมีความหมายว่า ลูกที่มีชีวิตอยู่รอดจนเติบใหญ่ได้ เนื่องจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ สุนัขและม้าก็เช่นกัน ดังนั้นหากลูกเลี้ยงดูพ่อแม่ผู้แก่เฒ่าโดยปราศจากความเคารพนับถือ ก็ย่อมไม่ต่างไปจากการเลี้ยงสุนัขและม้า นอกจากนี้เมิ่งจื๊อซึ่งเป็นปราชญ์โบราณชาวจีนอีกท่านหนึ่งได้เคยกล่าวเสริมว่า "lǎo wú lǎo yǐ jí rén zhī lǎo" ซึ่งมีความหมายว่า เราไม่ควรเคารพแต่พ่อแม่ของตนเท่านั้น แต่ควรให้ความเคารพแก่ผู้เฒ่าผู้แก่ท่านอื่นด้วย ตลอดช่วงระยะเวลากว่า 5,000 ปีของประวัติศาสตร์ชนชาติจีน การเคารพผู้เฒ่าผู้แก่เป็นคุณธรรมที่ได้รับการยกย่องให้เป็นคุณธรรมขั้นสูง ชนชาติจีนเชื่อว่าความกตัญญูและความเคารพต่อพ่อแม่เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับหลักธรรมแห่งสวรรค์และวิถีแห่งงมนุษย์ ลูกที่กตัญญูรู้คุณจึงได้รับการยกย่องจากคนในสังคม ส่วนลูกอกตัญญูก็จะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์หรือการประณามจากสังคม