第十八课:你对这个问题有什么看法?
บทที่ 18: คุณมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
บทสนทนาที่ 1
- nǐ jué de zhè bù diàn yǐng zěn me yàng你 觉 得 这 部 电 影 怎 么 样?คุณว่าหนังเรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง
- ò wǒ jué de hěn yǒu qù wǒ hěn xǐ huan哦,我 觉 得 很 有 趣, 我 很 喜 欢。อ้อ ผมว่าหนังเรื่องนี้สนุกมาก ผมชอบมากเลยครับ
- dà chuān zhè shì yí bù kǒng bù diàn yǐng大 川, 这 是 一 部 恐 怖 电 影!ต้า ชวน นี่มันหนังสยองขวัญนะ
บทสนทนาที่ 2
- zuì jìn chē huò zhēn duō最 近 车 祸 真 多!ระยะนี้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์บ่อยจริงๆ
- shì a nǐ duì zhè ge wèn tí yǒu shén me kàn fǎ是 啊!你 对 这 个 问 题 有 什 么 看 法?ใช่ค่ะ คุณมีความเห็นยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้คะ
- wǒ rèn wéi rén men yīng gāi zūn shǒu jiāo tōng guī zé我 认 为 人 们 应 该 遵 守 交 通 规 则。ผมคิดว่าทุกคนควรปฏิบัติตามกฎจราจรนะครับ
- nǐ shuō de méi cuò wǒ yě zhè me rèn wéi你 说 得 没 错。 我 也 这 么 认 为。คุณพูดถูก ฉันก็คิดแบบนี้เหมือนกัน
คำอธิบายการใช้ภาษา
1. 对……有什么看法?
"对……有什么看法?"(duì yǒu shén me kàn fǎ) เป็นสำนวนที่ใช้ในการถามความคิดเห็นของคู่สนทนา มีความหมายว่า "มีความคิดเห็นต่อ...อย่างไร"
2. 想、觉得、认为
"想"(xiǎng)、"觉得"(jué de) และ "认为"(rèn wéi) ต่างเป็นคำกริยาที่เกี่ยวกับการแสดงความรู้สึกหรือความคิดเห็นต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง คำทั้งสามมีความหมายว่า "คิดว่า" , "รู้สึก" และ "คิด/เห็นว่า" ตามลำดับ
3. 这么ี้้
"这么"(zhè me) ในบทนี้หมายถึง "แบบ/อย่างนี้" มีความหมายต่างจาก "这么..." (...ขนาด/อย่างนี้) ในบทที่ 11
เกร็ดวัฒนธรรม
ศาสนาเต๋า
ศาสนาเต๋าหรือ "เต้าเจี้ยว" เป็นศาสนาโบราณที่ถือกำเนิดในประเทศจีนและเป็นศาสนาที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อคนจีนสมัยโบราณรองจากศาสนาพุทธ
ศาสนาเต๋าเกิดในสมัยราชวงศ์ฮั่นและรุ่งเรืองในสมัยราชวงศ์ถังและซ่ง ศาสนาเต๋ายึดคัมภีร์เต้าเต๋อจิงที่ประพันธ์โดยศาสดาเล่าจื๊อเป็นหลักในการปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยแรกเริ่ม โดนยึดเอาหลัก"เต้า" และ "เต๋อ" ในคัมภีร์เป็นหลักศรัทธาพื้นฐาน ศาสนาเต๋าเชื่อว่า สรรพสิ่งในจักรวาลล้วนมีรากฐานและวิวัฒนาการมาจาก"เต้า" "เต้า"มีอยู่ทุกที่และครอบงำทุกสรรพสิ่ง ส่วน "เต๋อ" นั้นก็คือรูปธรรมที่สะท้อนวิถีของ "เต้า" ออกมานั่นเอง ศาสนาเต๋าให้ความสำคัญกับการมีชีวิตอยู่ ดังนั้นผู้นับถือศาสนาเต๋าจึงพยายามแสวงหาหนทางเพื่อให้มีชีวิตยืนยาวและไม่แก่เฒ่า นอกจากนี้ศาสนาเต๋ายังเชื่อว่าชีวิตไม่ใช่สิ่งที่ฟ้าลิขิต หากแต่เป็นสิ่งที่ตนกำหนดเองได้ และเชื่อว่าการบำเพ็ญเพียรตามวิถีเต๋าเท่านั้นที่จะเป็นหนทางบรรลุเป็นเทพหรือเซียนซึ่งมีชีวิตอมตะ
ศาสนาเต๋ามีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมจีนโบราณด้านต่างๆ ในระดับที่แตกต่างกันไป เช่น การเมือง เศรษฐกิจ วรรณคดี ศิลปะ ดนตรี ภาพวาด สถาปัตยกรรม เภสัชศาสตร์ ศาสตร์การบำรุงสุขภาพ ชี่กง เคมี ศิลปะการป้องกันตัววูซู ดาราศาสตร์และภูมิศาสตร์ เป็นต้น นอกจากนี้ศาสนาเต๋ายังมีอิทธิพลอย่างมากต่อคนจีน ไม่ว่าจะเป็นด้านวิธีคิด จริยธรรม คุณธรรม ประเพณี ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล จิตใจและลักษณะนิสัยของชาวจีน
การเคารพผู้เฒ่าผู้แก่
จีนหนึ่งในชนชาติที่มีประวัติศาสตร์และอารยธรรมเก่าแก่ของโลกได้รับการยอมรับว่าเป็นชนชาติที่ให้ความสำคัญกับประเพณีพิธีกรรมต่างๆ อย่างมาก ดังจะเห็นได้จากคุณธรรมและประเพณีอันดีงามของจีนที่สืบทอดมาแต่ครั้งโบราณกาลจำนวนมาก ได้หล่อหลอมกลายเป็นจิตวิญญาณทางวัฒนธรรมและจริยธรรมอันงดงามของชนชาติจีน ไม่ว่าจะเป็นมารยาท ความซื่อสัตย์ ความขยัน ความประหยัด ความสามัคคี การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความรักชาติ ความอดทน การใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและความวิริยะอุตสาหะ เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความเคารพผู้เฒ่าผู้แก่ คุณธรรมสำคัญข้อนี้เปรียบเสมือนสายน้ำที่ไหลรินผ่านกระแสธารประวัติศาสตร์อันยาวนานของจีน
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า ขงจื๊อปราชญ์โบราณชาวจีนได้เคยกล่าวไว้ว่า "jīn zhī cún zhě shì wèi néng yǎng, zhì yú quǎn mǎ, jiē yǒu suǒ yǎng, bú jìng hé yǐ bié kē?" ซึ่งมีความหมายว่า ลูกที่มีชีวิตอยู่รอดจนเติบใหญ่ได้ เนื่องจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ สุนัขและม้าก็เช่นกัน ดังนั้นหากลูกเลี้ยงดูพ่อแม่ผู้แก่เฒ่าโดยปราศจากความเคารพนับถือ ก็ย่อมไม่ต่างไปจากการเลี้ยงสุนัขและม้า นอกจากนี้เมิ่งจื๊อซึ่งเป็นปราชญ์โบราณชาวจีนอีกท่านหนึ่งได้เคยกล่าวเสริมว่า "lǎo wú lǎo yǐ jí rén zhī lǎo" ซึ่งมีความหมายว่า เราไม่ควรเคารพแต่พ่อแม่ของตนเท่านั้น แต่ควรให้ความเคารพแก่ผู้เฒ่าผู้แก่ท่านอื่นด้วย ตลอดช่วงระยะเวลากว่า 5,000 ปีของประวัติศาสตร์ชนชาติจีน การเคารพผู้เฒ่าผู้แก่เป็นคุณธรรมที่ได้รับการยกย่องให้เป็นคุณธรรมขั้นสูง ชนชาติจีนเชื่อว่าความกตัญญูและความเคารพต่อพ่อแม่เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับหลักธรรมแห่งสวรรค์และวิถีแห่งงมนุษย์ ลูกที่กตัญญูรู้คุณจึงได้รับการยกย่องจากคนในสังคม ส่วนลูกอกตัญญูก็จะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์หรือการประณามจากสังคม