วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

第二十二课:月饼真好吃! บทที่ 22: ขนมไหว้พระจันทร์อร่อยจัง

第二十二课:月饼真好吃!
บทที่ 22: ขนมไหว้พระจันทร์อร่อยจัง

บทสนทนาที่ 1

  • dà chuān  nǐ zhī dào jīn tiān  shì  zhōng  qiū jié ma
    大  川, 你 知  道  今  天  是  中   秋 节  吗?
    ต้า ชวน คุณรู้ไหมว่าวันนี้เป็นวันไหว้พระจันทร์
  • zhōng qiū jié shì  shén me
    中   秋 节  是  什  么?
    วันไหว้พระจันทร์คืออะไรครับ
  • zhōng qiū jié shì zhōng guó de chuán tǒng  jié  rì
    中   秋 节  是  中  国  的  传   统  节 日,
    shì  tuán yuán  de jié  rì zán men jīn tiān  qù
    是  团  圆  的 节 日。咱  们  今 天  去
    zhāng  lǎo shī jiā guò zhōng qiū jié ba
    张   老  师  家 过   中   秋 节 吧!
    วันไหว้พระจันทร์เป็นเทศกาลโบราณของจีน เป็นวันที่คนในครอบครัวจะมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา วันนี้พวกเราไปฉลองวันไหว้พระจันทร์ที่บ้าน อ. จางกันเถอะ
  • hǎo ā
    好  啊!
    ดีครับ

บทสนทนาที่ 2

  • zhè  shì  shén  me
    这  是  什  么?
    นี่คืออะไรคะ/ครับ
  • zhè  shì yuè  bǐng zhōng qiū jié wǒ  men
    这  是  月  饼。  中   秋 节 我  们
    dōu shǎng yuè  chī yuè bǐng
    都   赏   月, 吃 月  饼。
    นี่คือขนมไหว้พระจันทร์ ในวันไหว้พระจันทร์เราจะชมพระจันทร์และทานขนมไหว้พระจันทร์กัน
  • yuè liang zhēn hǎo kàn yuè bǐng zhēn hǎo chī
    月  亮  真  好  看, 月  饼  真  好  吃!
    พระจันทร์สวยมาก ขนมไหว้พระจันทร์ก็อร่อย
  • hǎo chī nǐ  jiù duō chī diǎnr
    好  吃 你 就  多  吃  点儿。
    อร่อยก็กินเยอะๆ สิ


คำอธิบายการใช้ภาษา

1. 咱们


"咱们" (zán men) มีความหมายว่า "พวกเรา" เหมือนกับคำว่า "我们" (wǒ men) แต่ "咱们" จะหมายรวมถึงฝ่ายผู้ฟังหรือคู่สนทนาของเราด้วย ในขณะที่ "" จะหมายถึงเพียงฝ่ายผู้พูดฝ่ายเดียว

2. คำกริยา "过" (ผ่าน/ใช้(เวลา))

""(guò) ในที่นี้หมายถึง "度过"(dù guò) หรือ ผ่าน/ใช้(เวลา) โดยทั่วไปคำนี้มักตามหลังด้วยชื่อเทศกาลหรือวันสำคัญต่างๆ เมื่อประกอบกันแล้วจะมีความหมายตรงกับในภาษาไทยว่า "ฉลองวัน..."เช่น "今天我和父母过生日。" (jīn tiān wǒ hé fù mǔ guò shēng rì, วันนี้ฉันฉลองวันเกิดกับพ่อแม่)

3. 好

เมื่อ ""(hǎo) ตามหลังด้วยคำกริยาจะสื่อความหมายถึงความรู้สึกที่ดีหรือความสุขที่เกิดจากกริยานั้นๆ เช่น "好看"(hǎo kàn, สวย, ดูดี)""好吃"(hǎo chī, อร่อย)" "好玩"(hǎo wán, สนุก)เป็นต้น

เกร็ดวัฒนธรรม

พิธีและธรรมเนียมปฏิบัติ 4: เทศกาลตรุษจีนและเทศกาลไหว้พระจันทร์

1.เทศกาลตรุษจีน

"ชุนเจี๋ย" หรือตรุษจีนถือเป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของชาวจีน ตามความหมายของชื่อเทศกาล "ชุนเจี๋ย" หมายถึงเทศกาลแห่งฤดูชุนหรือฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งก็คือปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติจีนนั่นเอง เมื่อฤดูใบไม้ผลิเวียนมาถึง ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ของสรรพสิ่ง ชาวไร่ชาวนาก็เตรียมพร้อมสำหรับฤดูการหว่านเพาะและเก็บเกี่ยวพืชพรรณรอบใหม่ ในช่วงเทศกาลคนทำงานและนักเรียนนักศึกษาต่างหยุดพักผ่อนหรือเดินทางกลับภูมิลำเนา ทำให้รถไฟและการจราจรอื่นๆ คับคั่งไปถนัดตา ชาวจีนจะทำความสะอาดและตกแต่งบ้านเพื่อต้อนรับเทศกาลตรุษจีนด้วยการปิดชุนเหลียนหรือคำมงคลคู่ไว้ที่ประตูบ้าน เนื้อหาของชุนเหลียนโดยมากมักเป็นประโยคที่แสดงถึงความปรารถนาหรือความคาดหวังในปีใหม่ที่จะมาถึง นอกจากนี้ยังมีการแขวนโคมแดงที่ติดตัวอักษร "ฝู" ซึ่งหมายถึงความสุขและโชคลาภหรือติดรูปเทพแห่งโชคลาภไว้ การติดตัวอักษร "ฝู" ที่โคมแดงจะต้องติดกลับหัว เพราะถือเคล็ดที่ว่าเมื่อมีคนเห็นก็จะพูดว่า "福倒了"(fú dào le "ฝู" กลับหัว) ซึ่งออกเสียงเหมือนประโยคที่ว่า "福到了"(fú dào le "ฝู" หรือโชคลาภมาเยือน)

ตรุษจีนเป็นเทศกาลที่ทุกคนในครอบครัวจะมาอยู่รวมกันพร้อมหน้าพร้อมตา ลูกๆ ที่ไปทำงานต่างถิ่นก็จะต้องกลับมาเยี่ยมพ่อแม่และร่วมฉลองตรุษจีนพร้อมกันทั้งครอบครัว คืนส่งท้ายปีเก่ามีชื่อเรียกว่าคืนถวนหยวน(คืนแห่งการพร้อมหน้า) ในคืนนี้คนในบ้านจะต้องมานั่งล้อมวงห่อเกี๊ยว(เจี่ยวจือ)ด้วยกัน ขั้นตอนสำคัญอย่างหนึ่งในการทำเกี๊ยวคือการนวดแป้ง(和面, huó miàn) คำว่า "和"พ้องเสียงกับคำว่า "合"(hé) หมายถึงร่วมกัน ส่วนตัวอักษร "饺"(jiǎo) ในคำว่า "饺子"(jiǎo zi) ออกเสียงคล้ายกับคำว่า "交"(jiāo) ซึ่งหมายถึงการเชื่อมต่อ คำว่า "合" และ "交" จึงสื่อความหมายถึงการมาอยู่รวมกัน ดังนั้นคนจีนจึงใช้เจี่ยวจือมาเป็นสัญลักษณ์แทนการอยู่รวมกันพร้อมหน้าพร้อมตา นอกจากการรับประทานเกี๊ยวพร้อมกันแล้ว ในคืนส่งท้ายปีเก่าคนจีนส่วนใหญ่ยังนิยมชมการแสดงในโอกาสเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติจีนและรอจนถึงการนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่พร้อมกันด้วย

บรรยากาศการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนมีระยะเวลาตลอดหนึ่งเดือน เริ่มจากการเซ่นไหว้เทพเจ้าเตาไฟและบรรพบุรุษในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือนอ้าย ช่วงกลางเทศกาลผู้ใหญ่จะให้เงินรับขวัญปีใหม่(yā suì qián)ซึ่งใส่ไว้ในซองสีแดง(อั่งเปา)แก่เด็กๆ ส่วนญาติสนิทมิตรสหายก็จะไปเยี่ยมเยียนกันถึงบ้านเพื่ออวยพรปีใหม่แก่กัน ในช่วงครึ่งเดือนหลังของเทศกาลก็จะเข้าสู่เทศกาลหยวนเซียว ในช่วงนี้จะมีโคมไฟประดับประดาทั่วเมือง ผู้คนมากมายก็จะออกมาเดินเที่ยวกันตามท้องถนน เมื่อพ้นเทศกาลหยวนเซียวจึงถือว่าเทศกาลตรุษจีนสิ้นสุดลง"

เทศกาลตรุษจีนเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "กั้วเหนียน" ซึ่งหมายถึง "ผ่านพ้นเหนียน" "เหนียน" คือสัตว์ในจินตนาการของคนจีนสมัยโบราณ เชื่อกันว่าเหนียนเป็นสัตว์ที่นำโชคร้ายมาสู่คน เมื่อ "เหนียน" มาเยือน พืชพรรณก็จะไม่เจริญเติบโตและแห้งเหี่ยวลง เมื่อ "เหนียน" "ผ่านพ้น" ไป สรรพสิ่งก็จะเจริญเติบโต ดอกไม้ก็จะบานสะพรั่งอีกครั้ง ดังนั้นคนโบราณจึงใช้วิธีการจุดประทัดเพื่อขับไล่ "เหนียน" ให้พ้นไป ต่อมาการจุดประทัดจึงกลายเป็นประเพณีที่ปฏิบัติต่อๆ กันมาในเทศกาลตรุษจีน

2. เทศกาลไหว้พระจันทร์
จงชิวเจี๋ยหรือเทศกาลไหว้พระจันทร์เป็นเทศกาลโบราณที่มีความสำคัญเป็นอันดับสองรองจากเทศกาลตรุษจีน ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติจีน ในคืนวันไหว้พระจันทร์จะมีพระจันทร์เต็มดวง(yuán mǎn) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ "การมาอยู่รวมกันพร้อมหน้าพร้อมตา" (tuányuán) ดังนั้นเทศกาลไหว้พระจันทร์จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ถวนหยวนเจี๋ย" โดยทั่วไปในคืนวันไหว้พระจันทร์ คนในบ้านจะนั่งชมจันทร์พร้อมกับรับประทานขนมไหว้พระจันทร์ด้วยกัน รูปร่างกลมๆ (yuán)ของขนมไหว้พระจันทร์ก็ถือเป็นสัญลักษณ์แทน"ถวนหยวน" หรือการมาอยู่รวมกันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัวอีกอย่างหนึ่งด้วยเช่นกัน