第七课:请问去天安门怎么走?
บทที่ 7: ขอถามหน่อย ไปจตุรัสเทียนอันเหมินยังไง
บทสนทนาที่ 1
- qǐnɡ wèn qù tiān ān mén zěn me zǒu请 问 去 天 安 门 怎 么 走?ขอถามหน่อยครับ จัตุรัสเทียนอันเหมินไปยังไงครับ
- zài qián miɑn de lù kǒu chénɡ dì tiě yī hào xiàn在 前 面 的 路 口 乘 地 铁 一 号 线,在 天 安 门 站 下 车 就 到 了。นั่งรถไฟใต้ดินสาย 1 ตรงปากทางด้านหน้านั้น แล้วลงที่สถานี "เทียนอันเหมิน" ก็ถึงแล้วค่ะ
บทสนทนาที่ 2
- qǐnɡ wèn zuò ɡōnɡ ɡònɡ qì chē qù dònɡ wù yuán zěn me zǒu请 问 坐 公 共 汽 车 去 动 物 园 怎 么 走?ขอถามหน่อยครับ ไปสวนสัตว์จะต้องนั่งเมล์สายอะไรครับ
- chénɡ liù sān èr lù ɡōnɡ ɡònɡ qì chē乘 632(六 三 二)路 公 共 汽 车到 动 物 园 站 下 车 就 可 以 了。นั่งสาย 632 ไปลงที่ป้าย "ต้งอู้หยวน" (สวนสัตว์) ก็ถึงแล้ว
- qǐnɡ wèn zài nǎ ér zuò chē请 问 在 哪 儿 坐 车?แล้วต้องไปขึ้นรถที่ไหนครับ
- jiù zài zhè ér就 在 这 儿。ก็ขึ้นตรงนี้แหละ
- xiè xie谢 谢!ขอบคุณครับ
คำอธิบายการใช้ภาษา
1. คำช่วยโครงสร้าง "的"
"的"(de) นอกจากจะเป็นคำเชื่อมระหว่างส่วนขยายกับคำหลักเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของแล้ว เรายังใช้ "的" เป็นคำเชื่อมระหว่างคำหรือกลุ่มคำบรรยายกับคำหลักที่ต้องการบรรยายอีกด้วย เช่น "一些给我侄子的礼物"(yī xiē gěi wǒ zhí zi de lǐ wù) (ของขวัญจำนวนหนึ่งที่จะให้หลานของฉัน) กลุ่มคำที่อยู่หน้า "的" ในวลีนี้ทำหน้าที่บรรยายคำหลักคือ "礼物"(lǐ wù) โดยไม่ได้แสดงความหมายของความเป็นเจ้าของแต่อย่างใด
2. 下
"下"(xià) ในบทนี้เป็นคำกริยา หมายถึง "ลง" เป็นคำตรงข้ามของ "上" (shàng, ขึ้น) แต่คำว่า "上" และ "下" ที่ปรากฏในบทที่ 5 นั้นมีความหมายว่า "上一个" (shàng yī gè, ก่อนหน้านี้) และ "下一个" (xià yī gè, ถัดไป, ต่อไป)
3. 车
"车"(chē, รถ) เป็นคำเรียกยานพาหนะแบบรวมๆ (แต่ไม่รวมรถไฟใต้ดิน รถไฟลอยฟ้าและรถไฟ ซึ่งจะมีชื่อเรียกเฉพาะ) คำว่า "车" หากปรากฏโดยลำพัง มักจะหมายถึง "รถยนต์" คำกริยาที่ใช้กับยานพาหนะต่างๆ ได้แก่
1) 开车(kāi chē)— ขับรถยนต์
2) 坐车(zuò chē)— นั่งรถประจำทาง/รถยนต์
3) 骑车(qí chē)— ขี่จักรยาน/จักรยานยนต์
4) 打车(dǎ chē)— นั่งแท็กซี่
เกร็ดวัฒนธรรม
สถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียง
จัตุรัสเทียนอันเหมิน
จัตุรัสเทียนอันเหมินในปัจจุบันมีพื้นที่ทั้งหมด 440,000 ตารางเมตร ถือเป็นจัตุรัสกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก กลางจัตุรัสเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์วีรชนและเสาธง ทุกวันจะมีผู้คนนับไม่ถ้วนมารอชมพิธีชักธงขึ้นและลงจากยอดเสา ด้านเหนือของจัตุรัสเป็นหอประตูเทียนอันเหมิน ด้านใต้ของจัตุรัสเป็นหอรำลึกท่านประธานเหมา ด้านตะวันออกเป็นพิพิธภัณฑ์การปฏิวัติแห่งชาติและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จีน ส่วนด้านตะวันตกเป็นที่ตั้งของมหาศาลาประชาคม สถานที่สำคัญเหล่านี้ล้วนเป็นสถาปัตยกรรมที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีน
กู้กง
กู้กงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "จื่อจิ้นเฉิง" หรือพระราชวังต้องห้ามเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1420 ในสมัยราชวงศ์หมิง เป็นพระราชวังประจำสองราชวงศ์ ได้แก่ราชวงศ์หมิงและชิง กู้กงเป็นพระราชวังที่ประทับและว่าราชการของราชสำนักที่ใหญ่ที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง กู้กงสร้างอยู่บนเส้นแกนแนวเหนือจรดใต้เส้นกลางของเมือง โดยมีการขุดคูเมืองลึก 6 เมตรและสร้างกำแพงสูง 10 เมตรล้อมรอบบริเวณพระราชวังไว้ กู้กงเป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างอย่างสง่างามและยิ่งใหญ่ ภายในพระราชวังประกอบด้วยห้องต่างๆ กว่า 9,000 ห้อง ห้องเหล่านี้ล้วนมีโครงสร้างที่ทำจากไม้ หลังคากระเบื้องแก้วสีเหลือง ฐานหินสีขาวอมเขียว และประดับประดาด้วยภาพสีเหลืองทองอร่าม นอกจากนี้ยังมีการแกะสลักรูปมังกรซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิตามพระที่นั่งต่างๆ ตรงตำแหน่งที่เห็นเด่นชัดอีกด้วย พระที่นั่งภายในพระราชวังทั้งหมดสร้างอยู่บนแนวเส้นแกนกลางจากทิศเหนือจรดใต้ โดยปีกของพระที่นั่งแผ่ออกไปสองข้าง แลดูเป็นแนวตรงจากเหนือจรดใต้และมีความสมดุลทั้งสองข้างซ้ายขวา บนแนวเส้นแกนกลางซึ่งปูด้วยหินอ่อนสีขาวเป็นทางเชื่อมระหว่างพระที่นั่งสำคัญภายในพระราชวัง ทางเชื่อมนี้สร้างไว้สำหรับเป็นทางเดินของจักรพรรดิเท่านั้น
หอรำลึกท่านประธานเหมา
ประธานเหมา เจ๋อตง(1893-1976) เป็นผู้สถาปนาและผู้นำคนสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์จีน กองทัพปลดแอกประชาชนจีนและสาธารณรัฐประชาชนจีน หอรำลึกท่านประธานเหมาตั้งอยู่ด้านทิศใต้ของอนุสาวรีย์วีรชน อยู่บนเส้นแกนกลางของอนุสาวรีย์วีรชนและกู้กง ภายในได้มีการจัดวางร่างของประธานเหมา เจ๋อตงไว้ในโลงแก้วคริสตัลซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางของหอที่ระลึก เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มาเยี่ยมชมและแสดงความเคารพ
สัญญาณมือของเลข 1-10
ในชีวิตประจำวัน บ่อยครั้งที่เราใช้สัญญาณมือในการสื่อสารกับผู้อื่น สำหรับในประเทศจีน คนทั่วไปจะใช้สัญญาณมือที่สังคมได้กำหนดขึ้นใช้ร่วมกันมาแสดงจำนวนตัวเลข 1-10