วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2553

สระ

อักขระ 41 ตัวนั้น อักขระเบื้องต้น 8 ตัว  ตั้งแต่ อ ถึง โอ  ชื่อ สระ
สระออกเสียงได้ตามลำพังตนเอง และทำพยัญชนะให้ออกเสียงได้ด้วย
สระ 8 ตัวนี้ ชื่อ นิสสัย  เพราะเป็นที่อาศัยของพยัญชนะ
สระ จัดเป็น รัสสะ  ทีฆะ  ครุ  ลหุ  วรรณะ
สระมีมาตราเบา 3 ตัว คือ  อ  อิ  อุ  ชื่อ รัสสะ เพราะมีเสียงสั้น  เช่น  อติ  ครุ
สระ อา  อี  อู  เอ  โอ  ชื่อ ทีฆะ เพราะมีเสียงยาว  เช่น  ภาคี  เสโข
   เฉพาะ เอ  โอ   ถ้ามีพยัญชนะสังโยคซ้อนอยู่เบื้องหลังจัดเป็นรัสสะ  เช่น  เสยฺโย* (เซ็ย-โย)  โสตฺถิ (สด-ถิ)
   * คำว่า เสยฺโย ไม่อ่านว่า เสย-โย (เช่น ในคำว่า เขาเอามือเสยผม) เพราะบาลีไม่มีสระเออ
   และไม่อ่านว่า ไส-โย เพราะเสียงสระ "ไอ" ในภาษาบาลี เขียนด้วยสระ อ สะกดด้วย ยฺ  เช่น มยฺหํ (ไม-หัง) อยฺโย (ไอ-โย)
สระที่เป็นทีฆะล้วน และสระที่เป็นรัสสะมีพยัญชนะสังโยคหรือนิคคหิตอยู่เบื้องหลัง  ชื่อ ครุ เพราะมีเสียงหนัก  เช่น  ภูปาโล  เอสี  มนุสฺสินฺโท  โกเสยฺยํ
สระที่เป็นรัสสะล้วน ไม่มีพยัญชนะสังโยคหรือนิคคหิตอยู่เบื้องหลัง ชื่อ  ลหุ  เพราะมีเสียงเบา เช่น  ปติ มุนิ
สระนั้นจัดเป็น 3 คู่  คือ
อ    อา  เรียก  อวรรณะ
อิ    อี    เรียก  อิวรรณะ
อุ    อู    เรียก  อุวรรณะ
เอ  โอ  เรียก สังยุตตสระ เพราะผสมเสียงสระไว้ 2 ตัว  คือ กับ อิ ผสมกันเป็น อ,   อ กับ อุ ผสมกันเป็น โอ

  • รัสสระ หมายถึง สระเสียงสั้น ได้แก่ อ อิ อุ
  • ทีฆสระ หมายถึง สระเสียงยาว ได้แก่ อา อี อู เอ โอ
  • สุทธสระ หมายถึง สระแท้ ได้แก่ อ อา  อิ  อี  อุ  อู
  • สังยุตตสระ หมายถึง สระผสม ได้แก่ เอ โอ
ครุ หมายถึงเสียงหนัก ได้แก่สระทีฆะล้วน (เสียงยาว) หรือสระที่เป็นรัสสะ (เสียงสั้น) แต่มีพยัญชนะสังโยค หรือ มีนิคหิต ( ํ) อยู่เบื้องหลัง ตัวอย่างเช่นคำว่า ภูปาโล  เอสี  มนุสฺสินฺโท  โกเสยฺยํ  เป็นต้น
ลหุ หมายถึงเสียงเบา ได้แก่สระรัสสระล้วน (เสียงสั้น) ตัวอย่างเช่นคำว่า  ปติ  มุนิ  เป็นต้น

สิ่งที่ควรจำสำหรับเรื่องสระคือคำเฉพาะ อักขระ รัสสะ ทีฆะ สุทธะ สังยุตตะ ครุ ลหุ
Url: palidict , palicoach